ป้องกันต้อกระจกจากการใช้คอมพิวเตอร์

โรคต้อกระจกเกิดจากการเสื่อมสภาพของแก้วตา จนทำให้เกิดการขุ่นมัว มองเห็นได้ไม่ชัดเจนเพราะแสงส่งผ่านไปที่ประสาทตาได้ไม่เต็มที่ โดยส่วนใหญ่แล้ว โรคนี้มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุแต่ว่ายังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลให้เกิดโรคต้อกระจกนี้ได้เช่นกัน

ตัวอย่างเช่นการที่คนเราใช้เวลาหน้าคอมพิวเตอร์มากจนเกินไป จะมีผลเสี่ยงก่อให้เกิดโรคต้อกระจกนี้เร็วขึ้นเพราะดวงตาได้รับแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นแสงอัลตร้าไวโอเลตเป็นเวลานาน
ดังนั้น ถ้าเรารู้จักป้องกันและดูแลสุขภาพสายตา ก็จะสามารถลดปัญหาการเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อกระจกนี้ได้

เคล็ดลับการป้องกันโรคต้อกระจก

1. ใช้น้ำตาเทียม หรือกะพริบตาให้ถี่ขึ้น เพื่อลดอาการตาแห้ง
2. พักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ 1ชม. 
3. ใช้ตัวอักษรหรือปรับเปลี่ยนความเข้มให้เหมาะสมเวลาพิมพ์งาน (ผมใช้ f.lux) ซึ่งเป็นโปรแกรมถนอมสายตาได้ดีมากๆ
4. ใช้แว่นตาสำหรับกรองแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เวลาใช้งาน 
5. ทานอาหารที่บำรุงสุขภาพของดวงตา เช่นผักใบเขียว ไข่ หรืออาหารที่มีสารโอเมก้า 3

• ติดหน้าจอมากเกินไป เสี่ยงเป็นต้อกระจกการที่เราจ้องหน้าจอวันทั้งวัน วันละหลายๆ ชั่วโมง มีโอกาสเกิดต้อกระจกได้เร็วขึ้น แต่หากรู้จักป้องกันตัวเองและดูแลสุขภาพสายตาด้วยเคล็ดลับเหล่านี้

เออร์กอต อันตราย มีผลข้างเคียงถึงชีวิต!

ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการโรคทางสมอง รพ. จุฬาลงกรณ์ นายแพทย์ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ชึ้ถึงอันตรายจากการบริโภคยารักษาโรคไมเกรน ที่มีชื่อว่า "เออร์กอต" เผยให้ใช้เฉพาะยามจำเป็นเท่านั้น เพราะ

• ยาตัวนี้มีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดหดตัวเพื่อบรรเทาอาการปวด แต่หากบริโภคร่วมกับยาตัวอื่นแล้ว อาจมีผลข้างเคียงรุนแรงมากจนมือเท้าดำต้องตัดทิ้ง หรืออาจถึงเสียชีวิตได้

การใช้ยาเออร์กอตร่วมกับยาบางชนิด ได้แก่ ยาต้านโรคซึมเศร้า ยาแก้ไอ ยาแก้ปวด ยาบรรเทาอาการพาร์กินสัน ยาแก้หวัดคัดจมูก และยาลดความดันบางชนิด อาจส่งผลให้เส้นเลือดหดตัวรุนแรง จนเลือดไม่ไปหล่อเลี้ยงที่ปลายฝ่ามือและฝ่าเท้า จนเกิดเป็นอัมพฤษ์ อัมพาตได้ ดังนี้ผู้ป่วยไมเกรนควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิดถึงการใช้ยา